AeternoBlade II Director's Rewind
AeternoBlade II Director's Rewind
AeternoBlade ภาคแรกนั้น วางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง Nintendo 3DS ตั้งแต่ปี 2014 และได้ย้ายมายังเครื่อง Console อื่นๆ ในเวลาต่อมา และแล้วก็ถึงเวลาของภาคต่อของเกมจากฝีมือคนไทย ที่แม้ว่าหากเทียบกับเกมแนวนี้ในตลาด ก็อาจจะยังเป็นรองอยู่บ้างก็ตาม แต่ทีมงานก็พยายามใส่สิ่งใหม่ๆ มาให้กับตัวเกม และทำให้เห็นพัฒนาการของ Studio รวมไปถึงศักยภาพในการทำเกมจากประเทศไทยของเรา
เรื่องราวของตัวเกมนั้นมีการอ้างอิงมาจากภาคแรก ซึ่งหากคุณไม่เคยเล่นมาก่อน ก็อาจจะเกิดความสงสัยได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการเล่น เนื่องจากเกมนี้ จะเน้นหนักไปที่เกมเพลย์มากกว่านั่นเอง โดยยังคงใช้ตัวเอกตัวเดิม เฟรย่า หลังจากที่เธอได้จัดการกับปีศาจร้ายในภาคก่อนไปแล้ว มาครั้งนี้ ก็มีเหตุให้เธอต้องกลับมาจับดาบอีกครั้ง เพื่อต่อกรกับปีศาจต่างมิติ และสืบหาที่มาของเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากนั้นภาคนี้ เธอยังได้ร่วมทางกับตัวละครหลักอีก 2 คน คือ ฟิลิกซ์ และเบอร์นาดอีกด้วย การนำเสนอภาพ และกราฟฟิคในภาคนี้ ถือว่ายกระดับจากภาคแรกขึ้นมาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการออกแบบฉาก และบรรยากาศต่างๆ ที่ละเอียด และสวยงาม แต่น่าเสียดายที่ตัวละครต่างๆ ทั้งตัวเอก และศัตรูในเกม กลับดูไม่เข้ากัน ทั้งโมเดลตัวละคร Facing Animation รวมไปถึง Movement ที่ยังดูแข็งๆ อีกด้วย เสียงเพลงประกอบก็ถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถทำออกมาได้ดี ตัวเกมอาจจะมีปัญหาด้าน Performance และบัคต่างๆภายในเกมให้พบเจออยู่บ้าง แต่ทางทีมงาน ก็ได้มีการออก Patch เกมออกมาเพื่อปรับปรุงอยู่เรื่อยๆ
AeternoBlade II Director's Rewind คือเกม Action Hack And Slash ที่อบอวลไปด้วยองค์ประกอบแบบ Metrobrania และระบบเกมแบบ RPG mผู้เล่นจะได้ทำการสำรวจแผนที่ต่างๆ ต่อสู้กับศัตรูมากมาย ที่เน้นจังหวะ และการกดปุ่ม โดยใน AeternoBlade II Director's Rewind นอกจากจะได้เล่นเป็นเฟรย่าแล้ว ก็จะยังได้เล่นเป็นตัวละครหลักอีก 2 คน ฟีลิกซ์ และเบอร์นาด ที่แต่ละตัวจะมีเพลย์สไตล์ และความสามารถพิเศษที่ต่างกันอีกด้วย ซึ่งในช่วงต้นของเกม จะมีการสลับสับเปลี่ยนตัวละคร หลังจากสู้กับบอส ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นต้องเรียนรู้จังหวะใหม่ หลังจากที่กำลังจะชินกับตัวละครนั้นๆ จึงทำให้เกมขาดความต่อเนื่องไป
จุดเด่นของเกมเพลย์ใน AeternoBladeภาคสอง นั้น คือความสามารถในการควบคุมเวลาแบบต่างๆ เช่น ย้อนเวลา หรือหยุดเวลา เป็นต้น ที่สามารถนำมาใช้ร่วมกับการต่อสู้ และนำมาใช้แก้ปริศนาต่างๆ ได้อีกด้วย ที่ถือว่าช่วยเพิ่มสีสันกับตัวเกมได้อย่างดี นอกจากนั้นสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่อีกอย่างหนึ่งก็คือ การสลับมุมมองจาก 2D เป็น 3D ในบาง Area ที่ช่วยในตัวเกมดูสดใหม่ขึ้น และทำให้เกมเพลย์ดูหลากหลายขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ข้อมูลจาก : https://www.corecell.co.th/corecell_V4/index.html